" ผู้ที่ทำงานมากย่อมผิดพลาดมาก
ผู้ที่ทำงานน้อยย่อมผิดพลาดน้อย
ผู้ที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลย
ผู้นั้นคือผู้ที่ไม่ได้ทำงาน "
ถ้าคุณลองได้ลงมือทำภารกิจใดๆ แล้ว ข้อผิดพลาดย่อมมีบ้างไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะ
การที่เราได้ลงมือทำอะไรสักอย่างแล้วเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดนั้น ถ้าเปรียบกับการเดินขึ้นบันไดก็เท่ากับว่าเราได้พัฒนาหรือก้าวขึ้นไปอีก 1 ขั้นแล้วนะคะ
ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นต่างๆ นั้นทำให้เราได้ศึกษามองเห็นปัญหาตลอดจนคิดค้นวิธีคิดที่จะเรียนรู้ถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น และทำให้เราต้องหาวิธีการเพื่อที่จะนำมาแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจากการผิดพลาดในการทำงาน และยังช่วยให้เราเป็นคนรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้นในการที่จะทำเรื่องใดก็ตาม
ในขณะเดียวกันนะคะ คนที่ทำงานใดๆไม่เคยผิดพลาดเลยเขาเหล่านั้นก็จะไม่ได้พบกับปัญหา ขาดการคิดค้นวิธีคิดและวิธีการในการที่จะแก้ไขปัญหา การพัฒนาการเรียนรู้ก็ไม่เกิดขึ้นค่ะ เห็นไหมคะว่าการที่เราทำงานผิดพลาดนั้นก็ไม่ได้ทำให้คุณดูแย่ไปเสียทีเดียว
ลองมองในมุมกลับคุณก็จะเห็นข้อดีของการผิดพลาดเหล่านั้น ข้อผิดพลาดเป็นเหมือนดาบสองคมค่ะ ถ้าคุณผิดพลาดบ่อยๆในเรื่องเดิมๆ ปัญหาเดิมๆ อย่างนี้ไม่เกิดผลดีนะคะ คนรอบข้างคุณจะมองว่าคุณไม่พัฒนาแล้วยังขาดความรอบคอบ ทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ค่ะ
ถ้าการที่คุณได้ลงมือทำภารกิจบางอย่างและเกิดข้อผิดพลาดขึ้นถ้าคุณเฝ้าแต่กล่าวโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ยอมให้อภัยตัวเองจนเกิดเป็นความตึงเครียดขึ้นแล้วล่ะก็...
ถึงเวลาแล้วค่ะที่ คุณที่จะต้องละทิ้งความรู้สึกผิดที่ฝังรากลึกในหัวใจของคุณทุกครั้งที่เผลอทำอะไรผิดพลาดลงไป
- ไม่เก็บเอาความผิดพลาดมาทำลายชีวิตที่เหลืออยู่
- ไม่เก็บเอาความผิดพลาดมาทำร้ายความรู้สึกจนไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้
- ไม่เก็บเอาความผิดพลาดมาตอกย้ำโทษตัวเอง
- จงเอาความผิดพลาดเป็นครูที่สั่งสอนประสบการณ์ชีวิต
- จงเอาความผิดพลาดเป็นบทเรียนและไม่ทำให้เกิดขึ้นอีก
- จงเอาความผิดพลาดเป็นเครื่องมือสำคัญของชีวิต
มองความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดาที่ในชีวิตเราต้องพบ
หยุดคร่ำครวญถึงความผิดที่ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ ลองถามตัวเองดูว่า คุณยังต้องการกลับไปอยู่ในอุโมงค์แห่งความทุกข์นั้นหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือ....ไม่
ก็ทิ้งมันไปค่ะ แล้วเริ่มเป็นคนใหม่ด้วยการให้อภัยตนเอง เริ่มต้นใหม่ด้วยพลังที่เต็มร้อยทุกครั้งนะคะ....
สู้...สู้ ค่ะ ^^v